วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Tips! การใช้สีน้ำ (2)

อุปกรณ์ที่จะใช้





เทคนิค

1. เกลือ เบสิคมาก ..... ลงสีน้ำไปก่อน เปียกๆ
 

โปรยเกลือลงไป เกลือเม็ดเล็กดูดน้ำเป็นจุด เม็ดใหญ่รัศมีก็ใหญ่ตาม

เสร็จแล้วเป็นแบบนี้
เป็นการสร้างเท็กเจอร์อย่างนึงให้ภาพจ้ะ 
*ห้าม* เด็ดขาดเลย ห้ามปัดเกลือออกตอนยังเปียก ไม่งั้นคุณจะเสียใจ จริงๆ
 


2. เป่า

อาศัยอุปกรณ์คือหลอดกาแฟ ให้เป่าง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่มี ก็เป่าปากเปล่าได้เลย เหนื่อยนิดนึง
 
วิธีเป่าก็ลงสีเปียกไปกองนึงก่อน
 
แล้วก็เป่าไปด้วย ก่อนจะแห้งก็ลูบสีอื่นลงไปด้วย เป่าต่อไปเลย 

วิธีเป่าจะเบลนด์สีให้เราเองโดยอัตโนมัติ

ลงสีใหม่เข้าไป เป่าแล้วสีจะผสมกันเอง แต่ต้องระวังเรื่องสีเน่าด้วย
บางสีผสมกันดูแล้วก็ยาขมมากๆ แผ่รัศมีออกมาได้ยาวไกลทีเดียว



3.มาสกิ้งฟลูอิท

ทำฉากด้านหลัง ....ลงน้ำก่อน


หยดสีหมึกกับสีน้ำลงไป รอแห้ง อย่าลืมนะ รอแห้ง
 
 
และ นี่คือมาสกิ้งฟลูอิท เป็นน้ำยาง ไม่ทำร้ายผิวกระดาษ 
 
เราใช้ไม้จิ้มฟันเกลี่ย วาดเป็นลายที่ชอบ 
 
ลงสีดำทับ แล้วรอให้แห้ง
 
พอแห้งแล้ว อย่านานไปนัก เอานิ้วถูยางออกมา ดึงออกให้หมด 
 

เสร็จแล้วววว!

ใช้ลงเป็นลวดลายเสื้อผ้า ฝาผนัง หรืออะไรก็ได้
เป็นการเว้นขาวที่ไม่ทำลายงาน เพราะถ้าเว้นพลาดก็เป่าให้แห้งแล้วใช้นิ้วถูออก



ขอบคุณบทความดีๆจาก chotima34816.blogspot.com

วันพุธที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Tips! การใช้สีน้ำ (1)

อุปกรณ์ที่จะใช้


เวลาผสมสีค่ะ ความเข้มสีจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนปริมาณน้ำกับสี






1.ลงเรียบสีเดียว
1. กำหนดขอบเขตที่จะลงสีแล้วปาดสีลงมาให้มีน้ำสีทิ้งไว้
2. ลงสีต่อมาเรื่อยๆก็อย่าให้น้ำสีแห้งนะคะ สำคัญมาก
3. ลงสีแบบเลี้ยงน้ำมาเรื่อยๆจนเต็มพื้นที่ๆต้องการจะเห็นว่ามีน้ำสีกองอยู่
4. ใช้พู่กัน แห้ง ปาดน้ำสีที่กองอยู่ออก แตะเบาๆก็พอ เอาออกให้หมดนะไม่งั้นจะเหลือคราบน้ำทิ้งไว้
5. เรียบร้อย

2.ลงเรียบสองสี
1. เริ่มมาก็ลงแบบลงเรียบสีเดียวก่อนแล้วก็หยุดตรงที่ต้องการให้เริ่มมีการไล่สี อย่าลืมเลี้ยงน้ำตลอดเวลา
2. ปาดสีที่สองให้ห่างจากสีแรกนิดหน่อย
3. ปาดสีที่สองขึ้นไปหาสีแรก
4. ปาดสีที่ผสมกันเองเล้วลงมาอีกนิดหน่อย แล้วทิ้งไว้ก่อน
5. ลงสีที่สองต่อจากน้ำสีผสมที่ทิ้งไว้ได้เลย อย่าปล่อยให้สีแห้ง
6. ลงสีเรียบร้อยก็ปาดเก็บน้ำสีที่เหลือเหมือนลงเรียบสีเดียว เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

3. ลงสีแบบเปียกทับเปียก
1. ลงสีเรียบธรรมดาไว้ก่อน ลงให้ชุ่มน้ำพอควร
2. อย่าปล่อยให้สีแห้ง แตะสีที่สองทับลงไปบนสีแรกเลยค่ะ จะทำรูปทรงไหนก็ตามสบายเลย
    สีมันจะไหลไปตามธรรมชาติเองค่ะ ยิ่งสีที่สองข้นเท่าไหร่มันจะไหลยากเท่านั้น
    เพราะงั้นถ้าอยากให้สีฟุ้งมากๆก็เจือจางน้ำเยอะนิดนึง แต่อย่าเยอะมากเกินล่ะเดี๋ยวสีที่สองจะไม่ออกมา 
3. ปาดสีเก็บให้เรียบร้อย ปล่อยให้แห้ง

4. เปียกทับแห้ง
มีสองแบบ
การลงเงา
1. ลงสีเรียบธรรมดาแล้วปล่อยให้สีแห้ง
2. ลงสีที่สองทับลงไปแล้วปล่อยให้แห้งไปเอง

จะเห็นว่าเงาจะชัดมากใช่มั้ยคะ ขอบจะคมมากซึ่งบางทีมันก็ใช้ได้ แต่บางทีมันจะทำให้งานแข็ง

การเบลอเงา
1. ลงสีเรียบธรรมดา ปล่อยแห้ง
2. ลงสีที่สองทับ
3. ช่วงที่สียังไม่แห้งใช้พู่กันหมาดๆปาดขอบสีแล้วใช้พู่กันจุ่มน้ำเกลี่ยน้ำต่อจากที่ปาดอีกทีอีกที
4. ใช้พู่กันถูขอบเบาๆให้กลืนกับน้ำแล้วปล่อยให้แห้ง
*อย่าปล่อยให้สีที่สองแห้ง ไม่งั้นจะปาดไม่ได้*

เปรียบเทียบการลงเปียกทับแห้งทั้งสองแบบ

5. การขูดสี - แบบเปียก
1. ลงสีเรียบธรรมดา
2. ช่วงที่สีเริ่มหมาดใช้พู่กันแห้งปาดลงบริเวณที่ต้องการ อยากให้สีออกเยอะก็ปาดซ้ำซักสองสามที
3. เรียบร้อย 

6. การขูดสี - แบบแห้ง
1. ลงสีเรียบธรรมดาแล้วปล่อยแห้ง
2. ใช่พู่กันจุ่มน้ำปาดลงไปบริเวณที่ต้องการขูดสีออก
3. แถบสีแดงคือจุดที่เราปาดน้ำลงไป แล้วใช้พู่กันหมาดถูซ้ำที่ลงน้ำไปซักสองสามทีพอให้สีเริ่มจาง
4. พอสีเริ่มจาง (อย่าให้น้ำที่ปาดแห้ง) ใช่ทิชชู่ซับทันทีแรงๆ
5. สีก็จะหลุดออกไปเรียบร้ย ไว้ใช้แก้งานที่ลงพลาดได้

7. การต่อสี
วิธีไว้ใช้เวลาลงสีพื้นที่มหญ่แล้วลงสีไม่ทัน
1. เวลาลงสีแล้วเห็นว่าลงไม่ทันแน่ สีหมดหรือเกิดแอคซิเดนท์อะไรขึ้นให้ต้องหยุดกลางคัน
    ให้เรารีบปาดน้ำตรงจุดที่ต้องหยุด(เหมือนการไล่สีด้วยน้ำเปล่า)
2. พอสีที่ลงไปแห้งแล้วก็ใช้พู่กันสะอาดลงน้ำทับเหนือจุดที่เราหยุดไว้นิดหน่อ
3. ลงน้ำเสร็จก็ใช้สีเดิมหรือสีที่ต้องการลงต่อได้เลย โดยให้สีที่ลงใหม่เข้าไปชนกับน้ำเปล่าที่ปาดทิ้งไว้แล้ว
4. เก็บขอบสีให้เรียบร้อยค่ะ
5. พอสีแห้งก็จะออกมาตามภาพ

8. การลดความคมของเงา (เบลอเงา)
วิธีนี้ไว้ใช้แก้เวลาลงเงา บางทีเราเบลอเงาพลาดสีไม่กลืนดีก็ต้องมาแก้แบบนี้
1. ลงสีเรียบธรรมดา
2. ลงสีเงาแบบธรรมดา จะเห็นว่าเงาตัดชัดเจนมาก
3. ใช้พู่กันหมาดถูบริเวณที่ต้องการลดความคมลง
4. อย่าถูมากเดี๋ยวสีจะหลุดเยอะหลายเป็นการขูดสีแทน ถูเบาๆให้สีเบลอก็พอ
5. ใช้พู่กันจุ่มน้ำหมาดๆปาดซ้ำให้สีที่เราถูออกมากลืนกับสีเดิมอีกที
6. ปล่อยให้แห้ง เรียบร้อย
 
                                 เปรียบเทียบก่อนหลัง



ขอบคุณบทความดีๆจาก ltanatosl.exteen.com

วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เครื่องมือและอุปกรณ์ในการวาดเส้น


1. ดินสอ

ดินสอ เป็นเครื่องมือพื้นฐาน และ จัดหาง่ายที่สุดในการใช้เขียนหนังสือและงานวาดเส้น ดินสอที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีให้เลือกสะดวกในการใช้อยู่หลายชนิด ตั้งแต่ที่เป็นไม้หุ้มต้องใช้มีดเหลา หรือ ชนิดที่เปลี่ยนไส้ได้ บางครั้งก็เรียกว่าดินสอกดซึ่งมีหลายประเภท และในแต่ละชนิดของดินสอ ก็แบ่งคุณสมบัติของไส้ดินสอซึ้งทำด้วยแกรไฟต์ (Graphite) เพื่อสะดวกและเหมาะกับการใช้งาน
คุณสมบัติของไส้ดินสอดำ จะเป็น อ่อน-แก่ คือถ้าไส้มีความแข็งจะให้น้ำหนักอ่อน ถ้าไส้อ่อนจะให้น้ำหนักดำเข้ม โดยมีตัวอักษร H และ B เป็นตัวบอก

                                                                         
                                           น้ำหนักระดับกลาง                                                               
12H-11H-10H-9H-8H -7H-6H-5H-4H-3H-2H-H- HB -B-2B-3B-4B-5B-6B-EE
     กลุ่ม H ตัวเลขยิ่งมากไส้จะแข็ง น้ำหนักจะอ่อน                     กลุ่ม B ไส้จะอ่อนแต่จะเมดำขึ้น
โดยทั่วไปในงานวาดเส้นจะใช้ดินสอดำอยู่ที่ ระดับ 2B-4B แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงานด้วยคุณสมบัติที่ดีของดินสออีกอย่างหนึ่งก็ดือ สามารถทำให้ภาพ อ่อน-แก่ หรือไล่น้ำหนักมือได้เป็นอย่างดีนอกเหนือจากเลือกชนิดจากคุณสมบัติอ่อน-แก่ ตามที่ H-B กำหนดไว้แล้ว

2.ปากกา

       ในงานวาดเส้น ปากกา ก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญ และ จัดหาได้ง่าย สะดวกในการใช้เขียนทั่วไป และ งานวาดเส้นให้ขนาด และ น้ำหนักของเส้นสม่ำเสมอ แต่จะมีข้อเสียเปรียบจากดินสอ ในส่วนที่ไม่สามารถทำให้ภาพ อ่อน-แก่ หรือ ไล่น้ำหนักได้ปากกาก็มีหลายชนิดเช่นกัน ให้คุณภาพ  การใช้งานที่หลากหลาย มีทั้ง ปากกาหมึกแห้ง ปากกาหมึกน้ำ ปากกาหมึกซึม ปากกาหมึกเคมี ปากกาลูกลื่น ปากกาปลายสักหลาด ปากกาเขียนแบบ และ มีขนาดของเส้นต่างๆกัน ในการใช้จึงขึ้นกับรูปแบบและชนิดของงานออกแบบ




3.มีด หรือ คัตเตอร์

       ส่วนใหญ่จะนำมาใช้เหลาดินสอ และ ตัดกระดาษ ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ให้ความปลอดภัย ก็จะเป็น คัตเตอร์ มีหลายขนาด ตัวใบตัดสามารถหักเพื่อเปลี่ยนความคมและเลื่อนเก็บได้ มีความสะดวก ในการพกพา ในการเหลาดินสอ บางครั้งอาจใช้เครื่องเหลาแบบหมุนตั้งโต๊ะ ซึงก็ให้ความสะดวก แต่การใช้คัตเตอร์ นอกจากสะดวกพกพา ยังสามารถเหลาให้ได้ความยาวของไส้ได้ตามต้องการ 

4.ยางลบ

     ยางลบ เป็น ตัวช่วยแก้ไขในส่วนที่ผิด ช่วยในการตกแต่งภาพบางส่วน และ ช่วยทำความสะอาดพื้นของชิ้นงาน โดยเฉพาะงานที่ใช้ดินสอดำทั่วไป ยางลบที่ใช้มีหลายคุณภาพ ควรเลือกใช้ที่มีเนื้อยางนุ่มจะทำให้เนื้อหรือผิวของกระดาษไม่เสียหาย

 5.กระดาษ

     กระดาษเป็นวัสดุ ที่มีความสำคัญมากเช่นกัน ซึ่งเป็นพื้นที่ปรากฏภาพ หรือผลงาน ในการวาดเส้นอาจใช้ได้หลายชนิดซึงมีให้เลือกมาก ก็ขึ้นอยู่กันรูปแบบของงาน โดยทั่วไป กระดาษ ในการทำงานวาดภาพ จะใช้การดาษวาดเขียน ที่มีขนาดเรียกเป็น ปอนด์ ที่เหมาะสมทั่วไปจะอยู่ในระดับ 60-80 ปอนด์ และใช้ด้านที่มีผิวเรียบ ถ้าเป็นการวาดภาพที่ใช้ถ่านชาร์โคลในการวาดภาพ กระดาษที่ใช้มักนิยมกระดาษปรู๊ฟ เพราะผิวของกระดาษจะจับเนื้อถ่านสีดำได้ดีและราคาไม่สูง เหมาะกับการนำมาเขียนที่ใช้ความเร็ว ไม่ต้องการรายละเอียดมากนัก

6.ไม้บรรทัด

    จัดเป็นเครื่องมือพื้นฐาน ที่ช่วยให้การลากเส้นได้แนวตรง มีทั้งที่เป็นพลาสติก และ โลหะ ใช้ วัดบอกระยะ ทั้งที่เป็น เซนติเมตร และ นิ้ว นอกจากนี้ก็ช่วยเป็นเครื่องมือ ทาบแนวในการตัดกระดาษ


7.พู่กัน-แปรง

    เป็นเครื่องมือที่ค่อนข้างยากในการวาดเส้น ยกเว้นในกรณีที่ต้องให้รูปแบบของงาน มีลีลาของ   เส้นที่สวยงาม ไม่นิยมใช้วาดหรือเขียนเส้นร่าง แต่อาจนำมาช่วยในการระบายส่วนพื้น ซึ่งทำให้เกิดความรวดเร็วพู่กัน และ แปรง จะมีหลายขนาด หลายชนิด และ หลายคุณภาพ ส่วนใหญ่คุณภาพจะอยู่ที่ขนแปรง ซึ่งเป็นตัวอุ้มน้ำสีเอาไว้ แล้วจึงระบายลงบนกระดาษ โดยที่ขนแปรงไม่แตก มีความอ่อนนุ่มเกาะกลุ่ม และ สปริงตัวได้ ไม่แข็งแตกกระจาย

8.สี

    ในการวดเส้นจะไม่เน้นมากนัก แต่ก็นำมาใช้ในลักษณะ ของการระบายพื้น เพื่อเน้นลักษณะของเส้นให้เด่น หรือ ชัดเจนยิ่งขึ้น เครื่องมือที่ใช้คู่สีก็เป็น พู่กัน ซึ่งมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ สีที่ใช้ก็มีทั้งสีน้ำหลอดทั่วไป หมึกดำ หรือ ที่เรียกว่า หมึกอินเดียอิงค์ ในกรณีที่ชิ้นงานเป็นรูปวาดเส้นขาว-ดำ

 9.จานผสมสี

     มีทั้งจานสำเร็จรูป พลาสติก ที่มีหลุมหลายหลุม จนถึงจานที่เป็น CERAMIC สีขาว เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้งานเกี่ยวกับการระบายสีสะดวก ในการใส่สี ผสมสี หรือทำให้สีเจือจาง เพื่อได้น้ำหนักอ่อน- แก่ ควรเลือกใช้ที่เป็นสีขาว

10.แผ่นกระดานรอง

     แผ่นกระดานรอง ส่วนใหญ่จะใช้ไม้กระดานอัด หรือกระดาษ 4 มม. เพราะจะมีน้ำหนักเบา พื้นเรียบ สามารถใช้งานได้ดีโดยเฉพาะนำออกนอกพื้นที่ อุปกณ์ที่ควบคู่กับแผ่นกระดานรอง อีกอย่างก็คือ ตัวหนีบ กระดาษเทปกาว ซึ่งเป็นตัวช่วยจับยึดกระดาษ
         นอกจาก วัสดุอุปกรณ์หลักดั่งกล่าว ในการวาดเส้นในงานออกแบบ ก็มีอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมอื่นอีกเช่น วงเวียน กระดาษทิชชู ตัวหนีบ มัสซิ่งเทป กระเป๋าใส่ผลงาน แผ่นรองตัด โต๊ะ เก้าอี้นั่งทำงาน ฯลฯ
คุณภาพของ วัสดุ-อุปกรณ์ มีส่วนสำคัญในการสร้างผลงาน เพราะจะทำให้ผลงาน เรียบร้อย ดูดี และ ทำได้สะดวกรวดเร็ว แต่ถึงอย่างไรก็ตามทักษะฝีมือของผู้วาดเส้น จะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ในการวาดเส้น ดังนั้น เครื่องมือดี ฝีมือดี จึงจะได้ผลงานที่ดี และ มีคุณภาพ 

สรุป

     วาดเส้น ก็เป็นผลงานสร้างสรรค์ของมนุษย์อย่างหนึ่งที่ใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ขีด เขียน เป็นภาพ ที่มีความหมายตามที่สมอง หรือ สติปัญญาสั่งการ โดยมีตา เป็นสื่อรับรู้ของการเกิดภาพนั้นๆ ซึ่งมีมาตั้งแต่ยุคหินเก่า สะท้อนสภาพความเป็นอยู่ของมนุษย์ยุคนั้น ให้คุณค่าทั้งทางโบราณคดี และคุณค่าทางทักษะฝีมือ การวาดเส้น มีบทบาทต่องานออกแบบเกือบทุกแขนง เป็นสื่อในการถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ทุกรูปแบบ ซึ่งทำได้สะดวก รวดเร็ว ง่าย และใช้อุปกรณ์เขียนพื้นฐานทั่วไป แต่ทั่งนี้ก็ต้องขึ้นกับความสามารถ ทางทักษะฝีมือของผู้วาดเส้น ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ในการวาดเส้น เพื่อให้ได้ผลงานตามจุดมุ่งหมาย


ขอบคุณที่มาจาก bspwit.ac.th